สายไฟ / สายจั้มเปอร์

สายต่อจัมเปอร์ (Jumpers) คือสายที่ใช้สำหรับเชื่อมต่อระหว่าง Arduino กับ Sensor หรือบอร์ดทดลอง โมดูลต่างๆ เพื่อเชื่อมต่อกับวงจรโดยจะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ เป็นแบบตัวเมีย Female และ ตัวผู้ Male (วิธีการจำของ Admin อ๊อฟจะให้จำว่าตัวเมียจะมีรู อิอิ) โดยปลายสายจะแบ่งออกเป็น 3 แบบ ตัวผู้ และอีกด้านเป็นตัวผู้ ตัวเมียและอีกด้านเป็นตัวผู้  และ ตัวเมีย และอีกด้านเป็นตัวเมีย หากไม่มีสายดังกล่าว น้องๆสามารถใช้สาย Lan หรือสายโทรศัพท์สำหรับเชื่อมต่อได้เลย อย่าปลอกฉนวนด้วยละ 

สายต่อ Jummers 

คือสายไฟที่มีหัวเสียบกับเข้ากับบอร์ดทดลอง บอร์ด Arduino Nodemcu ใช้สำหรับเสียบหรือต่อวงจรเชื่อมต่อวงจร ให้วงจรเชื่อมต่อเข้าหากัน เพื่อนำสัญญาณ หรือแรงดันป้อนไปยังบอร์ด Arduino 

สายจั้มเปอร์ (Jumper Wire) ทำหน้าที่อะไร

สายจั้มเปอร์ หรือ Jumper Wire คือสายไฟขนาดเล็กที่ใช้สำหรับเชื่อมต่อวงจรอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น บอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ Arduino เซนเซอร์ โมดูล หรือแผงวงจรทดลอง (Breadboard) โดยไม่ต้องบัดกรีสายไฟ เหมาะสำหรับงานทดลองและพัฒนาโปรเจคที่ต้องการความรวดเร็วและความยืดหยุ่นสูง ห้ามนำไปใช้งานจริงนะ เดี่ยวจะหาว่าไม่เตือน

หน้าที่หลักของสายจั้มเปอร์

• เชื่อมต่อวงจรไฟฟ้า – ใช้เป็นสายไฟสำหรับเชื่อมจุดต่าง ๆ ในวงจรไฟฟ้าให้ทำงานร่วมกัน
• เชื่อมต่อกับบอร์ดทดลอง (Breadboard) – ใช้เสียบลงบนบอร์ดทดลองเพื่อสร้างวงจรได้ง่ายโดยไม่ต้องบัดกรี
• เชื่อมต่ออุปกรณ์ – ใช้เชื่อมระหว่างบอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ เช่น Arduino, ESP32 กับเซนเซอร์ โมดูล หรือตัวควบคุมอื่น ๆ
• ทดสอบและปรับเปลี่ยนวงจรง่าย – สามารถถอดเปลี่ยนหรือแก้ไขวงจรได้สะดวกโดยไม่ทำลายวงจร

ประเภทของสายจั้มเปอร์

• แบบหัวตัวผู้ (Male to Male) – ใช้เชื่อมต่อระหว่างขา pin บนบอร์ดหรือ breadboard
• แบบหัวตัวเมีย (Female to Female) – ใช้เชื่อมต่อกับสายที่มี pin หรือ header
• แบบหัวตัวผู้กับหัวตัวเมีย (Male to Female) – ใช้เชื่อมต่อระหว่างบอร์ดกับสายหรือโมดูลที่มี pin

ข้อดีของการใช้สายจั้มเปอร์

• สะดวกและรวดเร็วสำหรับการสร้างและทดลองวงจร
• ไม่ต้องใช้เครื่องมือบัดกรี ช่วยประหยัดเวลา
• สามารถเปลี่ยนหรือปรับวงจรได้ง่ายโดยไม่ทำลายส่วนประกอบ
• ราคาถูกและหาซื้อได้ง่ายในร้านอิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป

สายจั้มเปอร์คืออุปกรณ์ที่สำคัญสำหรับผู้ที่ทำโปรเจคอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เริ่มต้นและนักพัฒนาที่ต้องการความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่อวงจร สามารถใช้งานร่วมกับ Arduino, Raspberry Pi และบอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว